.comment-link {margin-left:.6em;}

 

11 กันยายน 2548

สถาบันครอบครัวกับการศึกษา

ว่าจะเขียนเรื่องนี้หลายครั้งแล้วแต่ก็คิดอยู่นานทีเดียว...

ในที่สุดก็ตัดสินใจเขียนเพราะช่วงนี้ไม่ยอมมีใครเขียนเพิ่มเลย (อ้าว?)

ประเด็นที่ผมอยากจะพูดในวันนี้คือ สถาบันครอบครัวกับการศึกษา

ผมว่าสองอย่างนี้มันแยกกันไม่ออกเลยนะ ลองคิดดูสิครับว่า เราอยู่ในระบบการศึกษา หรืออยู่กับครอบครัวเป็นเวลามากกว่ากัน? และอะไร ที่น่าจะส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิด ความเข้าใจต่อโลก สังคม และสิ่งต่างๆ รอบตัวได้มากกว่ากัน

คงจะเป็นครอบครัวใช่ไหมล่ะครับ?

ประโยคที่ว่า พ่อแม่คือครูคนแรกนั้นคงจะเป็นสัจนิรันดร์ (ค่าความจริงเป็นจริงตลอดทุกกรณี) อย่างไม่ต้องสงสัย เท่าที่ผมจำความได้ ผมก็ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวจากพ่อแม่และครอบครัวตลอดเวลา ผมได้รู้จักต้นไม้ชนิดต่างๆ ได้สังเกตธรรมชาติมากมายในบ้านผมจากต้นไม้ที่พ่อผมปลูก ผมได้รู้จักกับคอมพิวเตอร์ (สมัยนั้นแรมยัง 64KB ฮาร์ดดิสก์ 2MB) เป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อนเข้าอนุบาล พ่อผมสอนให้ผมเล่นโปรแกรมนู้นนี่นิดๆ หน่อย ใช้เป็นแค่เปิดเครื่อง เข้าโปรแกรมเกม หรือวาดรูป สามารถใช้คำสั่งดอสบางคำสั่งได้อย่าง dir, cd, md, copy, del (ซึ่งเด็กสมัยนี้อาจจะไม่รู้จักแล้ว เก่าเกิน เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแก่) ผมรู้สึกได้ว่า ความรู้สึกที่อยากรู้อยากเห็น ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ทั้งหมดเหล่านั้นผมได้ถูกบ่มเพาะมาแต่เด็กๆ โดยไม่รู้ตัว หรือแม้แต่นิสัยรักการอ่าน ผมจำได้ว่าบ้านผมจะมีหนังสือเยอะมาก ถึงขนาดมีห้องสมุดตั้งแต่ตอนนั้น พ่อแม่ผมจะซื้อหนังสือนิทานมาให้อ่านตั้งแต่เด็กๆ มีเยอะมาก แล้วผมก็ชอบอ่านมาก พอโตหน่อยก็มีหนังสือประเภทการ์ตูนความรู้ ตอนนั้นจำได้ว่าทำให้ผมรู้จักการ "ยืม" ตัวเลขหลักข้างหน้ามาใช้ในการลบก่อนหน้าที่จะมีเรียนในโรงเรียนตอน ป.1 เสียอีก (อันนี้ภูมิใจมาก)

ผมเริ่มเขียนโปรแกรมครั้งแรกตอน ป.4 ตอนนั้นไม่มีอะไรมากหรอกครับ เขียนด้วยภาษา Basic ทำได้แต่ตั้งตัวแปร บวกลบคูณหารกัน แล้วก็พิมพ์ออกมา พ่อผมเป็นคนสอน แล้วผมก็สนุกกับมันเสียด้วย ผมว่ามันสนุกดีนะที่ได้ลองตั้งตัวแปรหลายๆ ตัว ลองจับมันมาบวกลบคูณหารมั่วๆ แล้วดูว่าสุดท้ายจะได้ค่าเท่าไหร่ หลังจากนั้นตอน ป.5 ผมก็ได้เริ่มเขียนโปรแกรมอย่างจริงจังมากขึ้นในภาษา Pascal เริ่มรู้จักการใช้เงื่อนไข การวนซ้ำ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้มาก จนม.1 ถึงได้เริ่มเขียนโปรแกรมบนวินโดวส์เป็นครั้งแรกด้วย Visual Basic 4.0 ตอนนั้นเป็นครั้งแรกครับที่ผมเรียนรู้การเขียนโปรแกรมโดยไม่ต้องพึ่งคุณพ่อ ผมขโมยหนังสือพี่สาวคนโตของผม (ที่ตอนนั้นเรียนบัญชีจุฬาปี 3) มาลองทำมั่วๆ กับโปรแกรมที่ถูกลงไว้อยู่แล้วด้วยพี่สาวผมในคอมพิวเตอร์ โอ้ว ครั้งแรกที่ผมสามารถเขียนโปรแกรมสำหรับการเก็บ Address Book ได้เป็นครั้งแรกนี่มันน่าตื่นเต้นมากครับ ฮา... นั้นนับว่าเป็นโปรแกรมแรกในชีวิตของผมเลยทีเดียว

ด้วยพื้นความรู้ที่ผมได้รับในเริ่มแรกตั้งแต่ประถม ทำให้ในช่วงระยะเวลาที่เหลือต่อมาตั้งแต่ ม.1 ของผม ผมสามารถศึกษาหาความรู้ต่างๆ ทางด้านการเขียนโปรแกรมและทางซอฟท์แวร์ได้โดยแทบไม่ต้องพึ่งคุณพ่อเลย คงเป็นเพราะทักษะในการคิดวิเคราะห์ที่ผมได้จากการทำกิจกรรมต่างๆ กับคุณพ่อตั้งแต่วัยเด็ก รวมถึงความสามารถในการลองผิดลองถูก ทั้งหมดนี้ ก่อให้เกิดเป็นผมในวันนี้

แน่นอนว่าความสำเร็จจากการแข่งขันต่างๆ ของผมทั้งในระดับโรงเรียน ประเทศ หรือแม้แต่นานาชาติของผมคงไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่เริ่มจากการที่เมื่อครั้งนั้นพ่อผมบังเอิญสอนผมให้เปิดคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรก บังเอิญสอนให้ผมรู้จักกับการเขียนโปรแกรมตอนป.4 หรือผมไม่บังเอิญไปขโมยหนังสือพี่สาวผมมาด้วยความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น

ผมเชื่อครับว่า มีอีกหลายคนที่ได้รับประสบการณ์คล้ายๆ กับผม ได้รับประสบการณ์และความรู้ต่างๆ ที่มีค่ายิ่งกว่าการเรียนที่โรงเรียนมากมายจากครูคนแรกของพวกเขา และได้รับการสนับสนุนในหนทางที่ตนเองชอบและถนัดอย่างเหมาะสมและเต็มที่

แต่ยังน่าเสียดายครับ ที่ยังมีพ่อแม่อีกมาก ที่ผลักภาระทางการศึกษาให้กับระบบการศึกษาที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักในปัจจุบันนี้
คุณพ่อคุณแม่ครับ... เริ่มวันนี้ก็ยังไม่สายนะครับ

2 Comments:

  • เรื่องทัศนคตินี่แหละ ที่แก้ไขยากที่สุด...

    By Blogger Paul_012, at 11/9/48 15:49  

  • เห็นด้วยมากๆ
    จำได้ว่า แม่ฝึกให้เล่น จิ๊กซอ กับพี่ของเรามาเยอะมาก
    แล้วก็เล่นเกมpuzzle ไม่เคยชนะพี่ซักที
    ได้เล่นหมากรุกกับพ่อ แล้วก็ร้องไห้โยเย

    ตอนนี้เกมพวกpuzzleก็กลายเป็นถนัดและเป็นพื้นฐานสำหรับการเรียนรู้ได้เร็วไปเลย

    หมากรุกก็ไม่ต้องพูดถึง ดีมากๆ แถมยังช่วยให้รู้แพ้รู้ชนะด้วย

    จำได้ว่าตอน ประมาณ ป.2 พ่อถามว่า สะ-แคว-รูดของ 4 คืออะไร ด้วย!! พยายามคิดจนตอบได้

    พ่อแม่ ก็จุดเริ่มต้น!!! เย้ๆ ขอบคุณพ่อแม่ครับ

    By Blogger Eig, at 16/9/48 23:32  

แสดงความคิดเห็น

<< Home